เรียบเรียงโดย teddythai
Teddy Bear มีประวัติความเป็นมามากกว่าร้อยปี มีการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง พัฒนาหน้าตาและแบบต่างๆ ไปตามยุคสมัยและสถานที่
และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ Teddy Bear ในแต่ละสถานที่แม้จะมีบางสิ่งที่เหมือนกัน แต่ก็มีบางสิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
หลายคนอาจจะคิดว่า Teddy Bear ตุ๊กตาหมี มันก็เหมือนๆ กันไปทั้งหมดนั่นแหละ แต่มันไม่ใช่เช่นนั้นน่ะสิ

American Bear ถ้าจะบอกว่า หมีเทดดี้ของฝั่งพี่มะกันเป็นของต้นฉบับก็คงไม่ผิดนัก เพราะจุดกำเนิดของตุ๊กตาหมีเทดดี้แบร์ มาจากที่นี่ เราจะเรียกหมีสไตล์นี้ง่ายๆ ว่า "หมีคลาสสิค" ด้วยรูปทรงหน้าตาที่ดูวินเทจและเป็นสมัยนิยมไม่ว่ากี่ยุคสมัย
หน้าตา: จะออกแนวรูปทรงสามเหลี่ยม จมูกแหลม แขนขายาว มีฝ่ามือฝ่าเท้า
วัสดุ: เป็นผ้าขนสั้นตรง ไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่
German Bear เทดดี้ของเยอรมันนั้นกำเนิดควบคู่กันมากับเทดดี้ฝั่งอเมริกา แบรนด์ที่เป็นจุดกำเนิดและเป็นที่นิยมจนถึงในปัจจุบันคือ ซไตฟ์ (Steiff)
หน้าตา: จะมีลักษณะจมูกที่ยาว หลังค่อม คล้ายกับลูกหมีจริงๆ
วัสดุ: เป็นผ้าขนสั้นตรงแบบเดียวกับอเมริกา
British Bear ตุ๊กตาหมีเมืองผู้ดี ก็ดูผู้ดีสมชื่อ จะเริ่มมีการนำวัสดุผ้าใหม่ๆมาทำดุ๊กตาหมี โดยเฉพาะผ้าขนสั้นหยิก ตุ๊กตาหมีจะมีลักษณะที่นุ่มกว่าอีกสองประเทศ แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักก็คือ Harrods จะเริ่มมีการแต่งกายเสื้อผ้าให้ตุ๊กตาเทดดี้มากขึ้น
หน้าตา: โครงหน้าจะออกกลม ตาโต รวมถึงปากและจมูกที่จะกลมมน ตัวหมีจะดูอวบอ้วนน่ากอด แขนจะสั้นกว่าเท็ดดี้แบบเดิม
วัสดุ: เป็นผ้าขนสั้นหยิก บริเวณปากจะเป็นผ้าขนเรียบ (T-cort 1C) ซึ่งสร้างเอกลักษณ์ให้เกิดขึ้น
Teddy Bear Thailand เท็ดดี้แบร์เข้ามาในประเทศไทยประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว โดยได้รับอิทธิพลจากฝั่งอเมริกาเป็นหลัก มีการนำวัสดุผ้าหลากหลายมาใช้เกิดเป็นตุ๊กตาหมีมากมาย แต่ตุ๊กตาหมีที่ได้ขึ้นชื่อว่า Teddy Bear จริงๆ นั้นมีเพียงแค่บางส่วน
หน้าตา: จะเหมือนเป็นตุ๊กตาหมีลูกครึ่งระหว่าง เทดดี้ของเมืองผู้ดีผสมกับเทดดี้มะกัน หน้าตาคล้ายหมีคลาสสิค แต่โครงหน้าจะกลมกว่า และมีจมูกสั้น ตาโต จะมีสัดส่วนที่สมดุลระหว่างแขน ขา และลำตัว
วัสดุ: ผ้าไลท์นิ่งเวฟหรือผ้าขนกุหลาบ เป็นผ้าขนหยิก เป็นลอนสั้น
ทั้งนี้ รูปแบบหน้าตาของ Teddy Bear จะมีการปรับเปลี่ยนและแตกต่างไปตามแต่ละแพทเทิร์นและบริษัทผู้ผลิตตุ๊กตา